วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

หมอลำซิ่ง ปรับมาจากไหน?

หมอลำซิ่งก็ปรับตัวมาจากหมอลำกลอนคู่ หญิง-ชาย ซึ่งมีการลำแบบสมัยเก่าคือ ดนตรีใช้แคนอย่างเดียว มีรูปแบบการลำแบบเดิมหลัก ๆ 3 แนวทาง คือ

1. ลำโจทย์ลำแก้ หมอลำจะลำถามกันไปมาเกี่ยวกับคดีโลกคดีธรรม เช่น พุทธประวัติ พุทธทำนาย พงศาวดารเวียงจันทน์ ฯลฯ ให้ความรู้แก่ประชาชน ถ้าหมอลำฝ่ายไหนตอบไม่ได้ ก็จะไม่เป็นที่นิยมในเวลาต่อมา ลำแบบนี้ในทางทำนองเรียกว่า ลำทางสั้น ลายแคนประกอบเรียกว่า ลายสุดสะแนน

2. ในระหว่างลำตาม ข้อ 1. มานานสักระยะหนึ่ง (คล้ายว่าจะเป็นวิชาการมากเกินไป) ก็จะสลับด้วย ลำเดินดง โดยหมอลำฝ่ายหนึ่งจะพูดแทรกขึ้นมาให้หมอแคน (เปลี่ยนทำนอง/ลายแคน) ว่า "เอ้าหมอแคนจ้าวเข้าลายเดินดง" พูดกับหมอลำอีกฝ่ายให้คนฟังได้ยินด้วยว่า "เอ้าบาดนี้ข้อยสิพาเจ้าเดินดงเข้าป่า" ลำเดินดงนี่แหละครับที่หมอลำยุคหลัง ตัดมาล้วน ๆ มาเป็นกลอนลำซิ่ง กลอนเดินดงจะสังเกตุง่าย หมอลำจะร้องนำว่า " อ๋าว..ห่านี่...." หรือ "ซ้ำ...ห่านี่.." (ห่า นี่ : ทีนี้/บัดนี้) กลอนก็จะพาคู่ลำชมป่า ชมสัตว์ แล้ววกมาเปรียบเทียบกับความงามความหล่อของคู่ลำ พอถึงจังหวะบรรยายลำไปถึงเสียงสัตว์ต่างๆ ก็จะลำว่า "ได้ยินหยัง... ได้ยินเสียง... วอน ๆ ๆ ละวอน ๆ ฮ้อง..." ชมไประยะหนึ่งก็จะบอกแก่คู่ลำเป็นสร้อยต่อเนื่องว่า "เด้อนางเดอ เด้อ เด้อ นางเดอ" จากนั้นคนลำพร้อมหมอแคนก็จะลงจังหวะ(กระทืบเวที่หมอลำ) "ตึ้ง ตึ้ง" ถ้าเป็นหมอลำฝ่ายหญิงพาเดินดงก็ว่า "เด้อชาย เดอ เด่อ ๆ ชายเดอ...ตึ้ง ตึ้ง" ลำเดินดง ใช้ลายแคนเดินดงทางน้อย ท่วงทำนองแคนรุกรับกระชับจังหวะสนุกมากจนครูหมอลำตัดมาลำเดินดงมาให้ลูก ศิษย์อย่างเดียว โดยเรียกว่าลำซิ่ง รวดเร็วมันทันใจ(เหมือนรถซิ่งว่าอย่างนั้นครับ)

3. ลำยาวหรือลำล่อง หลังจากลำโจทย์แก้(ลำทางสั้น), ลำเดินดง ได้ฟ้อนได้สนุกทั้งหมอลำและคนฟังมาระยะหนึ่งแล้ว หมอลำจะสลับบรรยากาศมาเป็นลำทางยาว จะมีการเกริ่น "โอ่...." เป็นสำเนียงยาวชวนออนซอนตื้นตัน ไม่มีจังหวะฟ้อนรำ ฟังเอาความอย่างเดียว เนื้อหาว่าด้วย เรื่องฟ้าฝนความต่อสู้อุปสรรคของคนอีสาน... เล่าเรื่องความลำบากของภพชาติต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้าหรือชาดกต่างๆ เป็นต้น ลำยาวนี้ใช้แคนลายอ่านหนังสือใหญ่ หรือลายใหญ่ หรือลายล่องยาว ก่อนจบลำยาวหมอลำจะต่อด้วยลำเต้ย ซึ่งเปลี่ยนอารมณ์จากออนซอนเรื่องราวจากลำยาว มาเป็นรุกกระชับสนุกฟ้อนได้ในช่วงสั้น ๆ เพื่อดึงอารมณ์ผู้ฟังคืนมาก่อนจบครับ

สมัยก่อนการลำแต่ละกลอนจะประกอบด้วย การลำแบบขอ้ 1 : 2 ในอัตราส่วน 80 : 20 แต่ปัจจุบันหมอลำซิ่ง จะดัดแปลงมาเป็น 5 : 95 ครับ นั่นคือลำโจทย์ลำแก้ทางสั้น ไม่เกิน 5 ส่วน อีก 95 ส่วน เอาทำนองลำเดินดง มาแต่งเนื้อหาใหม่ (ไม่มีดงป่าจะให้เดินด้วย) เรียกว่าลำซิ่งใส่เบส กีตาร์ ออร์แกน แซกโซโฟน กลองชุด แถมด้วยเพลงลูกทุ่งอีสานแบบโชว์สเต็ปเต้นหางเครื่อง สนุกสนานกัน

ส่วนการลำทางยาวแบบข้อ 3. แทบไม่มีแล้ว นอกจากบทเกริ่นลำสั้น ๆ แล้วรัวกลองเข้าจังหวะมัน ๆ เข้าลำซิ่งหรือลำเต้ยเลยครับเพราะจังหวะสนุกเร้าใจ ลำสาวจันทร์กั้งโกบ คือตัวอย่างลำเต้ยกลอนหนึ่งที่เรารู้จักดี

จนกลายมาเป็นลำซิ่งโชว์ลีลาเร้าใจทั้งเครื่องแต่งกาย ลีลา หางเครื่อง คำพูดเจรจาของหมอลำคู่ซิ่ง แบบที่เราเห็น ๆ มาทุกวันนี้นั่นแหละครับ

ไม่มีความคิดเห็น: