วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552

ศรีไพร สารีวงษ์




ประวัติ

อัศว รักษ์ พิทยาธนพล หรือ ศรีไพร สารีวงษ์ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ของนายบุญเติม และนางพรวน พละพล ที่ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรสวนมะขามหวาน และเปิดร้านขายของชำ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิชาเอกฟิสิกส์
ศรีไพร บอกว่าเขาชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ลุงของเขาคนหนึ่งก็เป็นลิเก และทั้งบ้านชอบเสียงเพลงกันหมด เขาฟังเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์มาตั้งแต่จำ ความได้ เพลงที่ครอบครัวฟังส่วนใหญ่จะเป็นเพลงอีสาน ส่วนเพลงลูกทุ่งก็ฟังเพลงของศรคีรี ศรีประจวบ , สายัณห์ สัญญา , พรศักดิ์ ส่องแสง , ยอดรัก สลักใจ เมื่อพี่ชายคนโตซื้อสเตอริโอมาฟัง ตอนนั้นเขาอายุประมาณ 14-15 ปี ก็ได้เริ่มฝึกการร้องเพลงอย่างเป็นจริงเป็นจังตามเสียงจากวิทยุ รวมทั้งจากเทปนักร้องเก่าๆ ที่มีอยู่ที่บ้าน และเทปตลก เพราะอย่างคณะตลกจุ๋มจิ๋ม ก็มีคนที่ร้องเพลงเสียงดีหลายคนอย่างสีบาน ซุปเปอร์โจ๊ก และ พล พันลาว เขาก็จึงเริ่มฝึกลอกเลียนเสียงร้องของชาย เมืองสิงห์ตามอย่างตลก และเริ่มเข้าประกวดร้องเพลงเป็นจริงเป็นจังในงานวัด ที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ โดยตอนนั้นเขาซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ได้ไปทำหน้าที่ขายบัตรเล่นเกมอยู่ในงาน พอดีในงานมีการประกวดร้องเพลง แม่ของเขารู้ข่าวจึงไปหาซื้อเสื้อให้สวมขึ้นประกวดร้องเพลงประกวด

เขา ทำได้ดีมากในการประเดิมเวทีประกวดร้องเพลง โดยรางวัลได้รับคือที่ 1 เป็นทีวีขนาด 14 นิ้ว ตอนขึ้นประกวด เขาร้องเพลงของยิ่งยง ยอดบัวงาม ที่ตอนนั้นกำลังดังมาก พอประสบความสำเร็จบนเวทีการประกวดครั้งนั้น เขาก็เริ่มเดินสายร้องเพลงประกวดไปอยู่ 2-3 จังหวัด เพื่อหารายได้มาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว และส่งตัวเองเรียนด้วย

เมื่อ จบการศึกษาใหม่ๆ เขาเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรักและใฝ่ฝัน คือมุ่งสู่การเป็นนักร้องอย่างจริงจัง ด้วยการเข้าประกวดร้องเพลง สุดท้ายแล้วเขาได้เข้ามาประกวดรายการชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ชื่อโครงการจินตลีลาประกอบเพลงของช่อง 11 และได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 เป็นถ้วยพระราชทานของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และเงินรางวัลมาจำนวน 18,000 บาทเมื่อปี 2545 ต่อมาก็ได้รับรางวัลในการประกวดเงาเสียงของ ยิ่งยง ยอดบัวงาม ที่จัดโดยลูกทุ่งเอฟเอ็ม

จาก นั้นก็มีโอกาสได้ไปเป็นพิธีกรวงดนตรีอินทรีอีสาน แต่อยู่ร่วมงานกับทางวงได้แค่ 2 เดือนก็ต้องออกจากคณะเนื่องจากทางบ้านมีปัญหา เมื่อพี่ๆเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ จึงไม่มีใครช่วยพ่อแม่ทำสวนมะขาม เขาจึงต้องกลับมาอยู่บ้าน แต่อยู่ได้ระยะหนึ่งก็พบกับจ่าถนอม บุญเพ็ญ ซึ่งพามารู้จักกับอาจารย์จรัญ สารีวงษ์ โปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง จากนั้น เขาก็ได้ส่งเทปเดโมมาให้อาจารย์จรัญพิจารณา ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคของเขาเพราะ ช่วงนั้นอาจารย์จรัญกำลังต้องการนักร้องเสียงอีสาน และก็รู้สึกชอบเสียงแหบๆของเขา โดยบอกว่าเขามีเสียงเหมือนใบไม้แห้งๆ เหมาะกับแคน และโหวด และตลาดอีสานช่วงนั้นกำลังบูม อาจารย์จึงพามาฝากบริษัทแมงป่อง และเมื่อมาเจอกับคุณกิตติ์ยาใจ ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น นรินทร์รัตน์ นันนนท์ แห่งสังกัดป่องทรัพย์ จำกัด (มหาชน) เขาก็ได้รับการบรรจุเข้ามาเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่ายเลย และปัจจุบันมีอัลบั้มออกมา 3 ชุดแล้ว คือ"ใจก่อการร้าย" , "ขายด่วน" และ "นอนกอดตัวเอง"

ไม่มีความคิดเห็น: